Lookkaew_SK

Lookkaew · @Lookkaew_SK

20th Jul 2014 from TwitLonger

MUST READ - [Trans] บางส่วนของสัมภาษณ์ JYJ จากนิตยสารแมรี่แคลร์ ฉบับเดือนสิงหา ปี 2014

1. ยูชอน: "ผมชอบงานกลุ่มมากกว่างานเดี่ยวนะครับ บอกตรงๆ.. ผมมีความสุขกับมัน ผมไม่รู้ว่าแฟนๆ รู้สึกยังไง มันอาจมีแฟนๆ ที่สนับสนุนกิจกรรมเดี่ยวมากกว่า แต่บางครั้งผมรู้สึกว่าแฟนๆ จะให้ความสำคัญและให้ความสนใจกับงานกลุ่มมากกว่านะ" แจจุง: "ผมเห็นด้วย"

2. จุนซู: "ตอนที่เราเริ่มทำงานของเราเป็นครั้งแรก ผมคิดว่าแฟนๆ ก็คิดเหมือนกันว่ามันสมเหตุสมผลและเป็นสิ่งที่ดีสุดที่เมมเบอร์คนนึงจะทำอะไรเพื่อเมมเบอร์อีกคน แต่มีอยู่ช่วงนึงที่แฟนๆ เริ่มอ่อนไหวกับเรื่องที่เราไม่ได้คิดอะไรมากนักกับการทำอะไรเพื่อกันและกัน มีแฟนๆ ที่เริ่มมาเป็นแฟนก็เพราะงานแสดงของพี่แจจุงหรือแฟนๆ ที่ชอบมิวสิคัลของผม ไม่ใช่เพราะชอบ JYJ ส่วนเรื่องละครของยูชอนก็เหมือนกัน ผมคิดว่านั่นคือจุดยืนของพวกเขา แต่ผมหวังว่าพวกเขาจะระลึกถึงว่าเราเป็น JYJ มาก่อนหน้านั้น"

3. แจจุง: "เราพูดคำพูดเหล่านี้ด้วยความระมัดระหว่าง เพราะจุดประสงค์ของแฟนๆ คือความหวังดี การสนับสนุนและความรักให้กับผม แต่ผมอยากจะใช้โอกาสนี้ในการพูดถึงเรื่องนี้ก่อนจะทำงานกลุ่มสำหรับอัลบั้มนี้ โปรดระลึกว่าเราสามาารถออกมาและทำงานเดี่ยวของเราได้ก็เพราะพลังได้เราได้มาจาก JYJ ครับ"

4. ยูชอน: "มีอีกอย่างนึงที่เราอยากจะขอแฟนๆ ของเรา เราเป็นคนกำหนดทิศทางงานของเราเองครับ เราปรึกษากับเอเจนซี่แต่เราตัดสินใจเป็นส่วนใหญ่ แต่ผมสังเกตว่ามีผู้คนมากมายที่วิพากษ์วิจารณ์เอเจนซี่"
- จุนซู: "ผู้คนเชื่อว่ามีการตัดสินใจที่มีประโยชน์กับบางคนหรือมีประโยชน์กับคนอื่นเกิดขึ้น"
- ยูชอน: "ขอให้ช่วยเข้าใจด้วยนะครับ มีหลายครั้งที่เราคิดถึงเอเจนซี่และตอนที่เมมเบอร์พิจาณาอย่างเห็นใจกันและกัน แต่แฟนๆ คิดว่าการตัดสินใจที่เราทำโดยคิดถึงใจของกันและกันนั้นเป็นการตัดสินใจจากเอเจนซี่ฝ่ายเดี่ยว แน่นอนว่าเราทราบ เรารู้ว่านี่เป็นเพราะความรักต่อเมมเบอร์คนนั้นของคุณ แต่เราเลือกที่จะเดินออกมาจากต้นสังกัดเดิมเพราะเราอยากจะตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง และดังนั้นเราเลยให้ความสำคัญกับการเคารพความคิดเห็นของเราเหนือสิ่งอื่นใดครับ"
- จุนซู: "ครับ เรารับฟังสิ่งที่เอเจนซี่อยากจะพูด แต่เราเป็นคนตัดสินใจ ในงานของเรา บางอย่างอาจจะประสบความสำเร็จมากกว่าอีกอย่าง แฟนๆ เชื่อว่าการตัดสินใจเหล่านั้นเกิดขึ้นจากเอเจนซี่ แต่นั่นไม่เป็นความจริง พูดง่ายๆ ก็คือ เราทำอย่างที่เราอยากจะทำ ผมอยากให้แฟนๆ ที่ทำด้วยความรักที่มีให้เรานั้นเข้าใจว่า JYJ เป็นคนที่รับผิดชอบในการตัดสินใจที่เราทำลงไป"
- แจจุง: "เราหวังว่าแฟนๆ จะสนับสนุนเรา เพื่อที่เราจะได้ทำให้สิ่งที่อยากทำ แน่นอนว่าเรารู้ว่าแฟนๆ เป็นการสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตอนที่ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากตอนที่เราออกมาจากอดีตต้นสังกัดของเรา"
- จุนซู: "หลังจากช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้น ผมรู้สึกว่าเมมเบอร์และแฟนๆ หัวเราะกันได้มากขึ้นและใกล้ชิดกันมากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เราอยากให้แฟนๆ มีความสุขกับงานกลุ่มของเรา แทนที่จะรู้สึกกังวลหรือไม่พอใจ เหนือยิ่งอื่นใดคือผมรู้สึกขอบคุณแฟนๆ จากก้นบึ้งของจิตใจครับ"
- แจจุง: "มันเหมือนกับว่าแฟนๆ กับพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วตอนนี้"

5. Q: มันเป็นเวลานานมากเลยนะ มีหลายอย่างที่จะเรียกมิตรภาพนี้ พวกคุณเป็นเพื่อนแบบไหนสำหรับกันและกัน?
- ยูชอน: "มันไม่มีคำที่จะอธิบายพวกเราได้ ก่อนหน้านั้นก็เป็นแค่เพื่อนและครอบครัว มีสองสามคำที่แว้บเข้ามาในหัว แต่ตอนนี้ความหมายของคำเหล่านั้นดูไร้ค่าไปเสียแล้ว มันไม่มีความจำเป็นเลยครับ"
- จุนซู: "เราพึ่งพากันและกันมากขึ้นและใกล้ชิดกันมากขึ้นตอนที่เราเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก แทนที่จะอยู่ด้วยกันแค่ในช่วงเวลาที่ดีๆ"

6. ยูชอน: "ผมไม่รู้ว่าความสุขคืออะไร แต่ผมอยากให้เราทั้งสามคนทำได้ดีอย่างนี้ต่อไป มันคงจะยอดเลยถ้าผมประสบความสำเร็จมากขึ้นและทำเงินได้มากๆ แต่ผมคิดถึงว่าความสัมพันธ์ของเราแข็งแกร่งแค่ไหน เมื่อเรามีรอยยิ้มขึ้นมาได้แค่เพียงได้เห็นหน้ากันและกัน แน่นอนว่างานของ JYJ สำคัญมากๆ และผมอยากจะทำไปเรื่อยๆ แต่ผมหวังว่าเราได้ทำเพราะเรามีความคิดที่เหมือนกัน เพราะเรามีความสุขเหลือเกินเวลาอยู่ด้วยกัน และเพราะเราคิดว่ามันคงจะยอดเยี่ยมมากที่ได้ทำอะไรแบบนี้ตอนที่เราฟังเพลงในวิทยุด้วยกัน สิ่งที่เราทำได้เพราะมันทำให้อีกฝ่ายมีความสุข เราไม่รู้ว่าเราจะได้เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมแบบไหนหรืออะไรจะรอเราอยู่ในอนาคต ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รับบทแสดงนำตอนที่เราอายุ 40 แล้ว และเราทำงานได้แค่ 10 อย่าง ไม่เหมือนอย่างตอนที่ทำได้ 30 อย่างในอดีต ผมจะมีความสุขถ้าเรามีความสุขแค่ที่ได้ทำสิ่งนี้ มันคงจะดีถ้าเราประสบความสำเร็จ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญครับ"

7. ยูชอน: "ผู้คนบอกผมให้มีสังคมที่กว้างขวางมากขึ้นอีกนิด เพราะกลุ่มคนที่ผมไปเจอด้วยมีจำกัด แต่มันไม่สำคัญว่าผมเจอคนกี่คน ผมมีสองคนนี้เป็นเหมือนกับหลักประกันของผม พี่แจจุงกับจุนซู ทั้งสองคนนี้จะอยู่ที่นี่เพื่อผมเสมอ และนั่นก็พอแล้ว ผมจะต้องกลัวหรือกังวลอะไรเมื่อผมมีทรัพย์สัมบัติอย่างสองคนนี้?"
- จุนซู: "มีเพื่อนแบบนี้แค่คนเดียวก็ยากพอแล้ว" (หัวเราะ)
- แจจุง: "เหมือนเป็นเงินค้ำประกัน" (หัวเราะ)

8. มันเป็นเวลาสามปีแล้วจากอัลบั้มล่าสุด และพวกคุณสามคนมีส่วนร่วมในงานเดี่ยวมากมาย เป็นเวลาที่คุณได้เติบโตในฐานะคนๆ หนึ่งเช่นกัน มันอาจจะฟังดูเป็นนามธรรมไปหน่อย แต่ช่วยบอกเราได้ไหมว่าการเติบโตในเวลาสามปีที่ผ่านมาสะท้อนลงไปในอัลบั้มนี้ยังไง
- จุนซู: "แนวดนตรีหลากหลายมากขึ้นครับ เราผ่อนคลายมากขึ้นอีกหน่อยในอัลบั้มนี้ มันไม่ใช่ว่าเราพยายามไม่มากเท่าเดิมนะครับ แต่เราเติบโตมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นในเพลงเต้น เราเลือกเพลงที่สร้างความประทับใจได้มากกว่าแทนที่จะเป็นเพลงที่มีจังหวะเร็วและแรง มันเป็นความจริงที่เราสามคนมีรสนิยมทางดนตรีที่แตกต่างกัน แต่เราก็รู้ด้วยว่าเพลงแบบไหนที่ JYJ ควรจะทำ เราได้เพลงมามากมายจากนักแต่งเพลงทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ ประมาณ 80 เพลง แต่ละคนเลือก 5 คน แต่มี 3 เพลงที่ซ้ำกัน แทนที่จะตัดสินใจว่าเพลงไหนดีหรือไม่ดี เราคิดถึงว่าเพลงไหนที่เราควรจะทำ และเราคิดเหมือนกันครับ"

9. Q: คุณสามคนคิดว่าเพลงของ JYJ ควรจะเป็นเพลงแบบไหน?
- ยูชอน: "เพลงที่ดีครับ และเพลงที่ประสานเข้าได้ดีกับน้ำเสียงของจุนซูและพี่แจจุง"
- แจจุง: "เราไม่ได้คิดถึงกระแสหรือแนวสำหรับอัลบั้มนี้ เราเลือกที่จะไม่คิดถึงอะไรเลยนอกจากการหาสิ่งที่เหมือนกันสำหรับเราสามคน มีเพลงที่มีดนตรีเครื่องสายที่ทรงพลัง เพลงอะแคปเปล่า เพลงอาร์แอนด์บี และเพลงป๊อป เราเลือกเพลงที่เราทั้งสามคนคิดว่าดีตอนที่เราได้ฟังครับ"

10. Q: คุณทั้งสามคนแตกต่างกันมาก มันมหัศจรรย์ที่คุณหาจุดที่เหมือนกันทางดนตรีที่ดีได้
- ยูชอน: "ผมคิดว่าเรามีความรู้สึกที่คล้ายคลึงกันทางดนตรีเวลาที่คิดถึงวง และแยกแนวที่เราชอบออกไป ความรู้สึกนี้เกิดมาจากหลายต่อหลายปีที่เราอยู่ด้วยกัน มันไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนหรอกครับ แต่เวลาเราได้ฟังเพลงนี้ เรารู้ว่าอะไรดี อะไรจะเข้ากับเมมเบอร์ได้ และมันจะเป็นยังไงเวลาเราสามคนร้องด้วยกัน มันเป็นไปได้ก็เพราะเราอยู่ด้วยกันมานานมาก"

11. Q: กลับมารวมกันหลังจากกิจกรรมสามปีในวงการที่ต่างกันแทนที่จะทำงานในฐานะ JYJ ต่อเรื่อง มันคงมีความเปลี่ยนแปลงที่คุณสังเกตเห็นบ้าง
- แจจุง: "ผมมั่นใจว่าเราก็มีกันทุกคนนะ"
- ยูชอน: "ผมไม่มีซะหน่อย"
- แจจุง: "นายไม่มีเหรอ? ทำไมละ? (หัวเราะ - แจจุงพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนน่ารักๆ) จุนซูกับผมไม่มีความกดดันเรื่องการร้องเพลงเพราะเราออกอัลบั้มเดี่ยวมาแล้ว แต่ผมสงสัยว่ามันจะเป็นยังไงสำหรับยูชอนที่แสดงมาอย่างเดียวนะ จุนซูแสดงมิวสิคัล ผมเลยคิดว่าด้านทางมิวสิคัลของเขาคงจะแสดงออกมา และสำหรับผมคงเป็นร็อค เพราะผมออกอัลบั้มร็อค เราเลยเริ่มต้นอัดเสียงด้วยความสงสัยว่าจะมีจุดร่วมกันตรงไหนที่จะครอบคลุมเราทั้งสามคน แต่พอเริ่มต้นอัดเสียง มันก็มีแค่ JYJ เลยครับ เราก็ประหลาดใจเหมือนกัน"

- จุนซู: "มันมีความแตกต่างระหว่างการออกเสียงเวลาแสดงมิวสิคัลและเวลาร้องเพลงในฐานะ JYJ และสำหรับพี่แจจุงก็เหมือนกัน ในกรณีของยูชอน ผมจำครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นเขาร้องเพลงไม่ได้แล้ว ผมกังวลว่าเขาอาจจะต่อไม่ติด แต่แล้วเราได้ไปร้องคาราโอเกะด้วยกันในวันเกิดของยูชอน และเขาร้องดีมากเลย บางทีอาจเป็นเพราะเขาเป็นนักแสดงมา ผมเลยได้เห็นว่ามันมีอะไรบางอย่างที่จับใจมากขึ้นเกี่ยวกับการร้องของเขาในตอนนี้ ผมก็กังวลเหมือนกัน ผมกังวลว่าเราจะเริ่มงานกลุ่มได้อีกครั้งรึเปล่าหลังจาก 3 ปีของการทำงานเดี่ยว แต่มันกลับกลายเป็นว่ามันเป็นเวลาแค่ 3 ปีเท่านั้นที่เราอยู่ห่างกัน"
ยูชอน: "ผมคิดว่าเราอยู่ด้วยกันตลอดมา 10 ปีนะ" (หัวเราะ)
จุนซู: "ครับ 10 ปีที่อยู่ด้วยกันมา"
แจจุง: "นี่เป็นปีที่ 11 ของเรา นานกว่านั้นถ้าเรานับปีก่อนที่จะเดบิวต์ด้วย"

12: Q: ตอนนี้คิมแจจุงมีความสุขรึเปล่า? หรืออย่างแรกเลยคือคิมแจจุงเชื่อในความสุขไหม?

- แจจุง: "ทุกวันนี้การกะเกณฑ์เรื่องความสุขมันยากที่จะพูด ผู้คนถามผมว่า 'JYJ ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่นอกจากตอนอัดเสียงอัลบั้ม เพราะพวกคุณยุ่งกับการทำงานเดี่ยวใช่ไหม?' มันก็เป็นเรื่องจริงนะครับ ผมมีความสุขที่ได้เจอพวกเขาบ่อยๆ ตอนทำอัลบั้ม ผมมีความสุขมากตอนที่เราสามคนเริ่มทำงานด้วยกัน แต่พอเวลาผ่านไป เราผูกพันกันไม่ว่าเราจะอยู่ด้วยกันหรือห่างกัน มันไม่สำคัญเลยว่าเราอยู่ด้วยกันรึเปล่า เรารู้สึกถึงตัวตนของกันและกันได้ กับความสุขเองก็เหมือนกัน ถ้าผมมีนิยามของความสุขชัดเจนก่อนหน้านี้ ตอนนี้ผมไม่รู้สึกว่าจะต้องมีหรือต้องทำอะไรเพื่อให้มีความสุขอีกแล้ว [หันไปหายูชอนที่เคยส่งข้อความมาว่า "ตอนนี้มีพี่ความสุขไหม?"] ผมได้รับข้อความนั้นตอนที่ผมกำลังถ่ายละครแล้วผมมึนไปเลย เราพูดถึงอนาคตกันบ่อยแค่ไหน ถามกันและกันว่าเรามีความสุขรึเปล่าและเราจะมีความสุขไหม? คำตอบต่อคำถามนั้นเปลี่ยนแปลงไปทุกปีที่เราอายุมากขึ้น และมันก็น่าแปลกใจที่ได้ยินบทสนทนาแบบนั้นอีกครั้ง"

จุนซู: "เราออกมาจากอดีตต้นสังกัดเพราะเราอยากจะมีความสุขจริงๆ เราเฝ้าถามตัวเองว่าถ้าเรามุ่งไปทางนั้น และผมคิดว่าความสุขที่จะเลือนหายไปตอนที่เรามีความสุข มันมีด้านที่ดีและไม่ดีของทุกๆ อย่าง ไม่ว่าคุณจะร่ำรวยหรือประสบความสำเร็จ มันก็มีด้านที่แย่อยู่เหมือนกัน มันขึ้นกับว่าคุณคิดถึงมันยังไง ถ้าผมคิดว่าผมไม่มีความสุขเพราะไม่มีอะไรบางอย่าง ผมก็จะไม่มีความสุข แต่ถ้าผมพึงพอใจกับการมีในสิ่งที่คนอื่นไม่มี ผมก็จะมีความสุข มันยากมากกว่าที่คุณคิด เพราะผมคงจะไม่มีความสุขถ้าไล่ตามอะไรบางอย่างที่ผมไม่มี อย่างน้อยแบบนั้นเราก็ใกล้กับคำตอบแห่งความสุขมากกว่าที่เคยเป็นไม่ใช่เหรอครับ?"

ยูชอน: "ความสุขนั้นจริงๆ แล้วไม่มีอะไรเลย การได้รับรู้แม้แต่ตอนที่คุณกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต ช่วงเวลานั้นก็อาจเป็นความสุขได้ การรับรู้ว่าคุณมีความสุขไม่ใช่เพราะคุณมีช่วงเวลา่ดีๆ แต่การได้สามารถผ่านช่วงที่ยากลำบากและดำเนินชีวิตต่อไปได้นั้นอาจคือความสุข ผมคิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่เมมเบอร์มีเป้าหมายชัดเจน ตอนที่ผมส่งข้อความนั้นไปหาพี่แจจุง ผมเหนื่อยและหมดแรง ผมนอนไม่หลับ กังวลกับความคิดที่แล่นอยู่ในหัว แต่พอผมรับรู้ถึงสถานการณ์ว่าผมโชคดีแล้ว มันก็ดี ผมยังคงมีความสุข นั่นเป็นเหตุผลที่ผมส่งข้อความไปหาเขา ผมรู้ว่าเขายุ่งกับการถ่ายละคร ทำอัลบั้มและเตรียมการแสดง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมถาม มันเป็นคำถามแบบว่า พี่กินข้าวรึยัง คุณอาจจะเรียกได้ว่ามันขึ้นกับว่ามองยังไง แต่คำตอบของพี่แจจุงก็เหมือนกับผม ไม่มีการตัดสินอีกแล้วว่าอะไรคือความสุขแล้วอะไรไม่ใช่"

Translated by: inheaven_wJYJ
แปลไทย: ลูกแก้วใสกิ๊งระริ๊ง

Reply · Report Post